2 May 2012

หัดเดิน

มีนาคม 2547

วันนี้ลองตั้งคำถามกับตัวเองว่า... หากจะลองเทียบอายุของเรากับอายุของโลกทั้งใบ เราก็ยังคงเป็นเด็ก เด็กที่ยังไม่เคยได้ลองใช้ชีวิตมากมายนัก หรืออาจเคยได้ใช้แต่ก็ยังคงไม่เคยลองใช้ชีวิตเพื่อเป็นฟันเฟืองตัวหนึ่งในการผลักดันความเจริญก้าวหน้าทั้งทางด้านเศรษฐกิจและสังคมของประเทศที่กำลังพัฒนาผืนนี้ กำลัง... ฟังดูเหมือนเป็นการให้กำลังใจประเทศที่ยังไม่พัฒนา ว่าตอนนี้ประเทศของเรากำลัง... พยายามอยู่อย่างเต็มที่ (ไม่ต้องห่วง)

สังคมมนุษย์เรานี่ก็แปลก หากมองดูกิจกรรมระหว่างช่วงการเกิดถึงการตาย ความจริง... เราก็กำลังนั่งอยู่บนความไม่มีอะไรในชีวิต หากไม่มีงาน ไม่มีความต้องการที่จะใช้เงิน ไม่มีรัฐบาล ไม่มีกระทรวงกลาโหม ไม่มีธนาคารโลก ไม่มีประเทศไทย ไม่มีประเทศสหรัฐอเมริกา... ชีวิตของเราก็คงไม่มีอะไรนอกจากการทำให้ตัวเองมีชีวิต
ก็คงแปลกตรงที่ มันมีอะไรๆ สำหรับชีวิตอีกหลายชีวิต

วันหนึ่งหลังจากการเกริ่นกับหลายๆ มนุษย์รอบกายไว้ว่า ผมจะไม่มีอะไรอย่างนี้ซักระยะ หนึ่งเดือน, สามเดือน หรืออาจจะครึ่งปี ไม่ต้องรีบเดินเหมือนอย่างที่ใครๆ หลายคนกำลังรีบเดินกันอยู่ในสังคมสมัยใหม่ ไม่ต้องหายใจเอากลิ่นความวุ่นวายมากมายเข้าสมอง ไม่ต้องทำตัวเป็นเฟืองที่ช่วยเข็นกลไกความเจริญของประเทศ
... ถึงไม่มีเฟืองตัวนี้ เศรษฐกิจโลกก็คงไม่ถึงคราวล่มสลาย

ใครๆ หลายคนรับฟังแล้วกล่าวเตือน โฆษณาตามสื่อโทรทัศน์และวิทยุมากมายกล่าวเตือน ผู้ใหญ่และมนุษย์รอบกายมากมายกล่าวเตือน... จะทำตัวว่างให้มันได้ประโยชน์อะไร? คนเราเกิดมามีชีวิตได้เพียง 20,000 กว่าวัน ชีชีวิตให้คุ้มหรือยัง?

ก็ในเมื่อความคุ้มยังไม่มีเครื่องตวงและมาตราช่างวัด การนอนหายใจรดที่นอนตัวเองทั้งชีวิตก็สามารถคุ้มได้เหมือนกัน หากใช้การตวงของบางมนุษย์... ถ้าหากประโยชน์คือเงิน... มันคงฟังดูน่ากลัวที่เราจะไม่ได้ประโยชน์เหล่านั้น ประโยชน์ซึ่งสังคมและหมู่มนุษย์ร่วมกระแสในเวลาเดียวกันเกือบทั้งระบบกำลังบูชาปัจจัยนี้อยู่

คงต้องมีความจำเป็นมากน้อย ที่เราต้องลุกขึ้นมาหัดเดินให้เหมือนหมู่มนุษย์ร่วมกระแส วันนี้ผมจึงจะเริ่มหัดเดิน ผมอาจยังเดินไม่ค่อยเก่งนักทั้งในตัวผมและสำหรับโลกภายนอก ระหว่างทางมีมนุษย์หลายคนกำลังเดินผ่านผมไปและแซงขึ้นหน้าไปหมดแล้ว ผมจึงหันหลังให้ แล้วออกเดินนำหน้าพวกเขาไปในอีกทิศทาง สักพักหันกลับไป ผมพบว่าผมนำเขามาไกลแล้ว...

No comments: