“ไอ้หมาปอ ลูกหมาเชื่องๆ ตัวหนึ่งที่เมื่อถูกเจ้านายเรียกก็รีบกระดิกหางวิ่งมาต้อนรับด้วยความสุขเป็นที่สุด”
ผมไม่ได้รู้ทุกอย่างในโลก
ไม่แน่ว่าโลกก็ไม่ได้รู้ทุกอย่างเกี่ยวกับตัวผม
หากเปรียบผมเป็นเหมือนหนังสือ
หนังสือของผมคงไม่ได้สนุกจนวางไม่ลง
ไม่ได้ถูกใจคนอ่านทุกเพศทุกวัย
คงไม่ได้ลึกลับเขย่าขวัญ ไม่ได้ตลกโปกฮา ไม่ได้กวนตีนเสียดสี
ไม่แน่มันอาจเป็นเพียงหน้ากระดาษเปล่า หรือไม่ก็อาจมีข้อความอยู่ไม่กี่บรรทัด หรืออาจยาวหลายหน้า
หนังสือตัวผมอาจวางสงบนิ่งอยู่บนชั้นหนังสือ ไม่มีใครรู้จักถ้าไม่หยิบเปิดดู หน้าปกอาจไม่สวย อาจไม่มีรูปภาพชวนดึงดูด อาจเป็นหนังสือเกี่ยวกับศิลปะ ดนตรี ภาพยนตร์ ที่ไม่ได้อยู่ในกระแส หรืออาจเป็นงาน Mass Production จำพวก Kitch ผมก็ไม่รู้ได้ อาจเป็นหนังสือภาพ อาจเป็นหนังสือเด็ก อาจเป็นหนังสือที่มีแต่ตัวหนังสือยืดยาวหลายหน้าจนบางครั้งก็คล้ายสารานุกรม หรือน่าเบื่อเหมือนพจนานุกรม อาจเป็นเพียงเศษกระดาษ หรือสมุดบันทึกเล่มใหญ่ที่มีนิยายเรื่องดีที่ยังเขียนไม่จบค้างอยู่
ผมอาจเป็นเพียงมนุษย์แกะตัวหนึ่งที่กระโดดข้ามรั้วของคนนอนไม่หลับในคืนหนักๆ
อาจเป็นเพียงอิเรน่าตัวละครในนิยายของมิลาน คุนเดอร่าที่กำลังเดินทางกลับบ้านเกิด
อาจเป็นแมลงวันหนุ่มที่อยากสวยในนิยายภาพเรื่องล่าสุดที่ผมกำลังจะปิดต้นฉบับและรอคอยการนำเสนอสำนักพิมพ์
ไม่ว่าผมจะเป็นอย่างไร แน่นอนว่าผมภูมิใจที่ได้เป็น แม้ว่าใครหลายคนจะไม่เห็นด้วย
แต่ก็ช่างมัน ผมไม่ได้รู้ทุกอย่างบนโลก ผมไม่ใช่นอสตราดามุส ผมเป็นเพียงไอ้หมาปอ ลูกหมาเชื่องๆ ตัวหนึ่งที่เมื่อถูกเจ้านายเรียกก็รีบกระดิกหางวิ่งมาต้อนรับด้วยความสุขเป็นที่สุด เมื่อเจ้านายไม่มีเวลาเล่นด้วยหรือเจ้านายไม่เห็นหัว โมโห ไม่พอใจ ผมก็ได้แต่เดินหลังค่อมท่อมๆ ออกจากบ้านไปนอนเซื่องอยู่ใต้ต้นลำพู นอนดูหิ่งห้อยเหงาๆ แอบน้อยอกน้อยใจโกรธเกรี้ยวอยู่เพียงลำพัง และเมื่อไรที่เจ้านายเรียกก็รีบกระดิกหากวิ่งไปหาด้วยความสุขเช่นเคย
หรือไม่แน่ว่าไอ้หมาปออาจเป็นนักเขียนที่มีผู้อ่านติดตามและชอบพอในเนื้องาน อาจมีความสำคัญเด่นดีจนกล้าที่ลุกขึ้นเดิน 2 ขา ทอดทิ้งเจ้านายไปง่ายๆ โดยคิดเพียงว่าหมาก็มีสิทธิจะเลือกเส้นทางหมาๆ ผมอาจไม่ใช่นักเขียนที่ดีที่สุดในโลก ยังไม่มีงานรวมเล่มของตัวเองเสียด้วยซ้ำ หรือถึงมีก็คงขายไม่ดีจนสามารถซื้อคฤหาสถ์ได้สัก 30 หลัง ผมเคยนั่งอยู่ที่ร้านกาแฟในค่ำคืนหนึ่งแล้วมีคนเดินเข้ามาถามว่า “คุณคือณ พงศ์ วรัญญานนท์ หรือเปล่าครับ ผมชอบงานของคุณมากเลย” ตอนนั้นผมนึกแปลกใจว่ายังมีคนอื่นๆ อีก ที่รู้จักไอ้หมาปอในนัยยะอื่นๆ ที่แตกต่างจากที่ผมเคยรู้จัก แม้กระนั้นผมก็ยังยินดีที่จะวิ่งรี่เข้าไปหาเจ้านายด้วยความสุขหากเขายังรักและใส่ใจในตัวผม ยังรักที่จะขุดหลุมฝังรอยถ่ายของตัวเอง ยังสนุกกับการขบกระดูกและเห่าใส่คนแปลกหน้า ผมแน่ใจว่ามีผู้คนที่โด่งดังในชื่อเสียงและเกียรติยศมากกว่าผมอีกมากมาย และผมก็เป็นไอ้หมาปอตัวนี้เช่นเคย ไอ้หมาปอที่คนบางคนก็ยังคงมองข้ามหัวไหล่ผ่านไป ไม่สนใจ ไม่ได้มีค่าอะไรสำหรับเขา ไม่มีผมสักคนบนโลกรัสเซียคงไม่ได้หยุดรบกับจอร์เจีย จีนคงไม่ได้หยุดการไล่ล่าเหรียญทองในกีฬาโอลิมปิค 2008 ยายมีคงไม่เลิกขายก๊วยเตี๋ยว และไอ้หมาปอยังคงไม่หยุดฉี่รดล้อรถยนต์
แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรก็ตาม ขณะนี้เวลาบ่าย 2 โมงครึ่ง บทเพลงWhat A Difference A Day Made ในเวอร์ชั่นของ Jamie Cullum หนึ่งในบทเพลงโปรดที่เคยเป็นส่วนหนึ่งในเรื่องสั้นที่ไม่ได้เรื่องของผมกำลังเล่นอยู่อย่างโดดเดี่ยวในเครื่องคอมพิวเตอร์
“What a difference a day made, twenty four little hours
Brought the sun and the flowers where there use to be rain
My yesterday was blue dear
Today I'm a part of you dear
My lonely nights are through dear
Since you said you were mine”
และผมก็ยังนั่งอยู่ตรงนี้ ฟังเพลงที่ชื่นชอบ แม้ว่าอากาศจะไม่ดี อารมณ์คนรอบข้างจะไม่ดี ผมอาจจะรู้สึกเหมือนว่าไม่เคยทำอะไรที่ถูกต้องสักที
แต่... ผมว่าผมก็รักในวิถีชีวิตของผมในระดับที่ยังพอรับได้...
"สุขสันต์วันพฤหัสบดี!!